Accessibility Tools
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
1. ให้ชะลอการอนุมัติหรืออนุญาตการเดินทางไปฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ศึกษาดูงาน และปฏิบัติ การวิจัยระหว่างประเทศ การไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขของข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ
2. กรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนประกาศฯ ฉบับนี้ ให้ข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ งด หรือ เลื่อนการเดินทางออกไป จนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศยกเลิกประเทศที่มีความเสี่ยง
กรณีมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ ให้ข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับแจ้งเหตุจำเป็นต่อผู้มีอำนาจอนุมัติหรืออนุญาตเพื่อพิจารณา การเดินทางไปต่างประเทศ หรือแวะผ่านประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง
3. กรณีนักเรียน นักศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ทุกประเภท มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยภารกิจส่วนตัว กระทรวงศึกษาธิการ ขอความร่วมมือให้ชะลอการเดินทางออกไปก่อน หากกรณีมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจหลีกเสี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือให้นักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ให้ผู้บริหารสถานศึกษารายงานถึงกรณีที่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดเดินทางในประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำกับติดตามและรายงานผลการดำเนินการ
4. ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ หรือแวะผ่าน หรือกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยงตามประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยให้ผู้นั้นเข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่โรงพยาบาล และพักเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลาและให้รายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาทราบผ่านทางอีเมล์ แอปพลิเคชันไลน์ หรือช่องทางสื่อสารออนไลน์อื่นๆ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยผู้บังคับบัญชาอาจมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้าน หรือที่พัก และรายงานการปฏิบัติงานต่อผู้บังคับบัญชาด้วยรูปแบบตามที่เห็นสมควร หรือ ที่ได้ทำการตกลงกันไว้ ในระหว่างที่พัก
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ให้รายงานตัวผ่านทางอีเมล์หรือแอปพลิเคชันไลน์ต่อครูที่ปรึกษาและครูที่ปรึกษารวบรวมข้อมูลรายงานต่อผู้บริหารสถานศึกษา และให้หยุดเรียนตามระยะเวลาโดยต้องจัดให้มีการเรียนการสอนเพิ่มเติมด้วยรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อทดแทนช่วงที่ขาดเรียน
5. หากมีบุคคลจากต่างประเทศหรือเขตการปกครองกลุ่มประเทศเสี่ยงมาติดต่อราชการในหน่วยงานสถานศึกษา ให้หน่วยงาน สถานศึกษา ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด. นอกจากนี้ให้ชะลอการเชิญบุคคลจากต่างประเทศมาร่วมการประชุม การสัมมนา หรือการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องออกไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลาย กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งให้เสนอ เหตุจำเป็นต่อหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชาพิจารณา และกำหนดมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสม
6. กรณีข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ มีบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดเดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือสัมผัสผู้ต้องสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อการติดต่อโรคนี้ให้งดเข้าชั้นเรียน หรือหยุดมาปฏิบัติงาน หรือหยุดมาปฏิบัติราชการเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นเวลา 14 วัน โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงาน
7. ให้ข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ระมัดระวังและป้องกันตัวเอง โดยล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย
8. ให้สถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ทำความสะอาดพื้นที่ภายในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องและส่งเสริมความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแก่เด็กนักเรียน หากพบเด็กนักเรียนในโรงเรียนป่วย ให้แยกเด็กนักเรียนเพื่อเฝ้าระวังและดำเนินการอย่างเหมาะสม
9. ให้ทุกหน่วยงานจัดวางแอลกอฮอลเจลไว้ในจุดให้บริการสำหรับประชาชน และบุคลากรในสังกัดให้เพียงพอ
10. ให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ และนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัด
11. ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนไปดำเนินการตามมาตรการทางการบริหารเพื่อให้บรรลุผลของประกาศฉบับนี้ต่อไป และเมื่อดำเนินการเป็นประการใดแล้ว ให้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นระยะ ๆ
12. ให้องค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาถึงความเหมาะสมในกิจกรรมการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ กิจกรรมใดที่มีการชุมนุม หรือ พบปะของบุคคลจำนวนมากที่อาจส่งผลโดยตรงให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาให้ดำเนินการชะลอ หรือ ระงับการดำเนินการไว้ก่อน
13. ให้สำนักบูรณาการกิจการการศึกษา เป็นหน่วยงานประสานกลางเกี่ยวกับการดำเนินงานตามมาตรการฉบับนี้
Ratchadamnoen Nok Road Dusit Bangkok 10300
Copyright © 2019 www.otepc.go.th