Accessibility Tools

logo
Thai ไทย (ภาษาไทย)TH
ขนาดตัวอักษร :

facebook youtube otepc official feed

  • หน้าแรก
  • ข่าวสารและประกาศ
  • สถานี ก.ค.ศ.
  • สถานี ก.ค.ศ. หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2561)

สถานี ก.ค.ศ. หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2561)

17 กันยายน 2561
เขียนโดย
กลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่

สถานี ก.ค.ศ.

หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

สายงานบริหารการศึกษา มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ

(ว 12/2561) 

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 มีมติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2561) เพื่อให้การประเมินวิทยฐานะเริ่มต้นของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษาทุกสังกัด มีความเหมาะสม สอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และลักษณะงานของตำแหน่ง โดยได้สรุปสาระสำคัญมาบอกกล่าวให้ทุกท่านรับทราบ ดังนี้

                        1. ผู้ขอมีวิทยฐานะ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

                           1) ดำรงตำแหน่ง ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรฐานวิทยฐานะ

                           2) มีภาระงานบริหารเต็มเวลา

                           3) ได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบย้อนหลัง 2 ปีติดต่อกัน ในสายงานบริหารการศึกษา

                           ทั้งนี้ ผู้ขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ กรณีที่ ก.ค.ศ. กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งใด
ต้องผ่านการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา ผู้นั้นต้องผ่านการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานฯ ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ก่อน

                        2. กำหนดให้มีการประเมิน 3 ด้าน

                           1) การประเมินด้านที่ 1 และด้านที่ 2 ให้ใช้กรอบการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตาม ว 17/2552

                           2) การประเมินด้านที่ 3 เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 รายงานผลการพัฒนาคุณภาพในการบริหารและการจัดการศึกษา จำนวน 1 เล่ม และส่วนที่ 2 ผลงานทางวิชาการ ต้องเป็นงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการศึกษา หรือ ผลงานทางวิชาการ ที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาและพัฒนาการบริหารและพัฒนา
การจัดการศึกษา ซึ่งแสดงถึงความเชี่ยวชาญในหน้าที่ จำนวนไม่เกิน 2 เรื่อง

                           ทั้งนี้ การประเมินด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และด้านที่ 3 ให้คณะกรรมการประเมินจากเอกสาร หลักฐาน และจากการปฏิบัติงานจริง ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริง

                        3. ผู้ขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ที่จะเกษียณอายุราชการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 สายงานบริหารการศึกษาทุกสังกัด ให้ดำเนินการดังนี้

                                   1) การขอมีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ให้ส่งคำขอถึงส่วนราชการต้นสังกัด ภายในวันที่ 17 กันยายน 2561 นี้ สำหรับสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อดำเนินการประเมินแล้วให้ส่งผลการประเมินถึงสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายในวันที่ 24 กันยายน 2561

                           2) การขอมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดส่งคำขอถึงสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายในวันที่ 17 กันยายน 2561 นี้ ด้วยเช่นกัน

                                สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา ที่ขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 และ ว 13/2556 ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ

                        ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (ว 12/2561) ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. (www.otepc.go.th) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 12 ลงวันที่ 7 กันยายน 2561

พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์

เลขาธิการ ก.ค.ศ.

 

เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.” หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

 ดาวน์โหลดไฟล์

  • อ่าน 792 ครั้ง

สารสนเทศสำนักงาน ก.ค.ศ.



footer logo

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก ดุสิต กทม. 10300

ติดต่อประชาสัมพันธ์