วันที่ 6 ธันวาคม 2566 นางจีรนันท์ เพ่งพินิจ รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นประธานในการประชุมสัมมนาเพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ ห้องประชุมจรูญ มิลินทร์ สำนักงาน ก.ค.ศ.
สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติเห็นชอบหลักการและกรอบแนวคิดในการจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นผู้จัดทำระบบการย้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ และให้นำความเห็นของที่ประชุมไปประกอบการพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อไป นั้น สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงได้จัดการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น โดยได้เรียนเชิญที่ปรึกษาสำนักงาน ก.ค.ศ. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็น พร้อมทั้งอภิปรายและพิจารณาร่างองค์ประกอบและตัวชี้วัดต่าง ๆ ของหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 18 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 (ว 18/2566) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 นี้ เพื่อให้หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว มีความถูกต้อง ครอบคลุม ลดปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม มีตัวชี้วัดในการพิจารณาย้ายที่เป็นมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับบริบทของส่วนราชการ ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการครูมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน สถานศึกษามีข้าราชการครูไปปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องและสถานศึกษาได้ครูทันเปิดเทอม โดยการดำเนินการย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ นี้ ได้กำหนดให้มีการยื่นคำร้องขอย้ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และกำหนดให้ส่วนราชการกำหนดตัวชี้วัดที่ลดการใช้ดุลพินิจ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เรื่อง “ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น” ที่ต้องการให้เกิดเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายให้ครูได้ย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยกระบวนการที่โปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง และในการนี้ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. ได้เข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวด้วย
กลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่