ในสัปดาห์ที่แล้วทิ้งท้ายไว้ในเรื่องที่ ก.ค.ศ.มีมติเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา รอง ผอ.สช. จังหวัด ผอ.สช.อำเภอ/จังหวัด ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันนี้จึงขอนำสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวมาเล่าสู่เพื่อนครู ดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 และเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2552 มีมติให้ตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ เป็นหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งต่อมากระทรวงศึกษาธิการ ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 เรื่อง การจัดตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้จัดตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดขึ้นในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา และให้จัดตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ ขึ้นในทุกอำเภอของจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และจังหวัดสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย)
และเพื่อประโยชน์ในการจัดอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงกำหนดให้สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ เป็นหน่วยงานการศึกษา ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับ ก.ค.ศ.ได้อนุมัติกรอบอัตรากำลังรองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ/จังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว
ดังนั้น ก.ค.ศ.จึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ/จังหวัด ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทั่วไป ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานตำแหน่ง และกลุ่มประสบการณ์ ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง รวมระยะเวลา
ในการดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะ และหากผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหา ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้นับระยะเวลาทวีคูณในการคำนวณระยะเวลาการดำรงตำแหน่งได้
2.กำหนดจำนวนตำแหน่งว่างในปัจจุบัน และที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณอายุราชการใน 2 ปีงบประมาณ และสัดส่วนตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 50:50
3.การประเมิน ให้ อ.ก.ค.ศ.สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ตรวจกระดาษคำตอบ และการประมวลผลการสอบ
4.เกณฑ์การตัดสิน ผู้ผ่านเกณฑ์การสรรหา ต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
5.การขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหา ให้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านเกณฑ์การสรรหา โดยเรียงลำดับที่ตามคะแนนจากมากไปหาน้อย แยกเป็น กลุ่มทั่วไปและกลุ่มประสบการณ์ และบัญชี ผู้ผ่านการสรรหาให้มีอายุไม่เกิน 2 ปี
ถือว่าเป็นความก้าวหน้าในวิชาชีพและสร้างขวัญกำลังใจอีกระดับหนึ่ง ที่ ก.ค.ศ.ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้นะคะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
มติชน ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555