สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันอีกเช่นเคยนะคะ ในวันนี้ จะนำเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะ อ.เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และ อ.จะนะ) ที่เสนอผลงานทางวิชาการหลังจากการพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังมีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ ได้มีโอกาสเข้ารับการพัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบให้เกิดประสิทธิภาพ และนำมาใช้ในการขอเลื่อนวิทยฐานะได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.ผู้มีสิทธิเข้ารับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการตาม ว1/2557 จะต้องเป็นผู้ที่ขอรับการประเมินเพื่อให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.4/1032 ลงวันที่ 3 เมษายน 2552 และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามีมติให้พัฒนาผลงานทางวิชาการ แต่ผลงานทางวิชาการที่พัฒนาแล้ว ไม่ผ่านการประเมิน และปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่งเดิมและปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษดังกล่าว และต้องเป็นผู้ที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.ที่ ก.ค.ศ.ตั้ง ได้ประชุมและพิจารณาแล้วมีมติไม่อนุมัติ ภายในวันที่ 10 มีนาคม 2557 หากมีมติไม่อนุมัติหลังวันที่ 10 มีนาคม 2557 ให้ยื่นคำร้องได้ในปีถัดไป
2.ผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 1 ให้ยื่นคำร้องต่อผู้บังคับบัญชาและส่งถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายในวันที่ 1-15 มีนาคม ให้ดำเนินการพัฒนาภายในช่วงเวลา 1-30 เมษายน 3.องค์ประกอบในการพัฒนาและการประเมิน ได้แก่ 1) การพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2) การพัฒนาการปฏิบัติงานในหน้าที่ 3) การรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ และ 4) เอกสารรายงานทางวิชาการ เมื่อผู้ขอผ่านการพัฒนาแล้ว ต้องกลับไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ณ สถานศึกษา เป็นเวลา 1 ภาคเรียน หลังจากนั้นให้จัดทำรายงานผลการพัฒนางานจัดการเรียนการสอน เพื่อเสนอกรรมการตรวจและประเมินต่อไป
สำหรับที่ผ่านมา ก.ค.ศ.ได้ดูแลช่วยเหลือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยการบรรจุทายาทเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปแล้วหลายราย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูแลกลุ่มพนักงานราชการ พนักงานจ้างเหมาบริการ ครูอัตราจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว ครูสอนศาสนาอิสลามหรือวิทยากรอิสลามศึกษา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ให้มีความก้าวหน้าและมีความมั่นคงในวิชาชีพครูอีกส่วนหนึ่ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากการที่ ก.ค.ศ.ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติ รวมทั้งเป็นการช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูใต้ด้วย แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557