Accessibility Tools
สถานี ก.ค.ศ.
ความเคลื่อนไหวการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
การได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถือเป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความภาคภูมิใจของการรับราชการ ซึ่งเดิมการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กับข้าราชการพลเรือนสามัญ ใช้หลักเกณฑ์บัญชี 7 ท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เหมือนกัน ต่อมาเมื่อมีพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เปลี่ยนจากการจำแนกระดับตำแหน่ง มาเป็นระบบวิทยฐานะ และยังคงใช้หลักเกณฑ์บัญชี 7 เหมือนเดิม ในขณะที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ เปลี่ยนมาใช้ระบบจำแนกประเภทตำแหน่ง การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ได้เปลี่ยนมาใช้ตามหลักเกณฑ์บัญชี 41 จึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และมีข้อขัดข้องในการเทียบคุณสมบัติในการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
จากการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างบัญชีดังกล่าวทำให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ แต่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งบังคับบัญชา ไม่สามารถเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ป.ม. ทั้งที่ดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับชำนาญการพิเศษ
ด้วยเหตุนี้ ก.ค.ศ. จึงมีความพยายามที่จะผลักดันให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกสายงาน ที่ดำรงตำแหน่งที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ป.ม. เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับชำนาญการพิเศษ โดยได้ตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการดำเนินการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย เป็นการเฉพาะ และได้มีการประชุมจัดทำ (ร่าง) บัญชีการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ มาเป็นระยะ ๆ โดยยึดการเทียบตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการ และกำหนดคุณสมบัติโดยยึดเงื่อนไขและระยะเวลาการขอพระราชทาน ตามหลักเกณฑ์บัญชี 41 และจะได้นำกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนนำเสนอ ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณา ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวประการใด จะนำมาบอกกล่าว ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านได้รับทราบในโอกาสต่อไป
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ ที่ 21 ธันวาคม 2558
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก ดุสิต กทม. 10300
Copyright © 2019 www.otepc.go.th