Accessibility Tools
สถานี ก.ค.ศ.
ผลการรับฟังความคิดเห็นการจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ (สายงานการสอน)
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน หากท่านได้ติดตามอ่านบทความในคอลัมน์สถานี ก.ค.ศ. มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้นำเสนอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้มีการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 20 -31 พฤษภาคม 2560 ทางเว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 22 – 24 พฤษภาคม 2560 รับฟังความคิดเห็นจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 รับฟังความคิดเห็นจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เข้ารับการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 121 คน วันที่ 27 พฤษภาคม 2560 รับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงาน กศน. และกรรมการ ใน กศจ. ทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 113 คน ณ โรงแรมตรัง กรุงเทพมหานคร
โดยในวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายของการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ค.ศ. และขณะนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้สรุปผลการแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว จึงนำมาบอกกล่าวให้ได้ทราบ โดยผลสรุปเป็นดังนี้
1. ผู้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. มีจำนวนทั้งหมด 9,285 คน (ณ วันที่
31 พฤษภาคม 2560 เวลา 16.30 น) โดยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 25 – 34 ปี เป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด ผู้ที่เข้ามาให้ความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
2. ผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่มีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประเมินวิทยฐานะอยู่บ้าง
3. การกำหนดจำนวนชั่วโมงในการปฏิบัติการสอน (800 ชั่วโมง/ปี) ส่วนใหญ่เห็นว่าควรมีความยืดหยุ่นไปตามความยุ่งยากในการจัดการเรียนการสอน เช่น สอนหลายชั้นเรียน สอนหลายระดับ สอนในโรงเรียนที่มีความพร้อมหรือไม่พร้อมด้านบุคลากร รองลงมา เห็นว่าควรมีความยืดหยุ่นตามประเภทของการจัดการเรียนการสอน เช่น ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา การศึกษาพิเศษ การศึกษาปฐมวัย การศึกษา
นอกระบบฯ และการอาชีวศึกษา
4. ผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ มีข้อดีในเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบันทึกข้อมูล สามารถเก็บข้อมูลได้ดี เป็นระบบ ลดการเตรียมเอกสาร ลดภาระค่าใช้จ่าย กระตุ้นให้ครูได้มีการพัฒนาตนเอง ครูได้อยู่กับนักเรียน เพิ่มคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน ผลการปฏิบัติงานสะท้อนถึงคุณภาพของวิทยฐานะ
ยังมีรายละเอียดของการแสดงความคิดเห็นอีกจำนวนมาก ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้รวบรวมความคิดเห็นดังกล่าว นำเสนอ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญฯ และ ก.ค.ศ. พิจารณาในเดือนมิถุนายน 2560 ก่อนประกาศใช้หลักเกณฑ์ ต่อไป
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.”
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก ดุสิต กทม. 10300
Copyright © 2019 www.otepc.go.th