การประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการกำหนดจำนวน องค์ประกอบ วิธีการได้มาฯ ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2565

18 กันยายน 2566

เขียนโดย

กลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่

วันที่ 18 กันยายน 2566 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการกำหนดจำนวน องค์ประกอบ วิธีการได้มา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งและการประชุมของ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2565 ณ โรงแรมชลจันทร์ พัทยา บีช รีสอร์ต เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการกำหนดจำนวน องค์ประกอบ วิธีการได้มา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งและการประชุมของ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2565 เพื่อนำไปใช้สรรหาคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต (ว 33/2665 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 และหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/902 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2665) นั้น ปัจจุบันมีประธานอนุกรรมการหรืออนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอายุครบ 70 ปี บริบูรณ์ หรือเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้ตำแหน่อนุกรรมการว่างลงก่อนครบวาระ และต้องดำเนินการสรรหาบุคคลใหม่มาทดแทน ทำให้องค์ประกอบของคณะอนุกรรมการไม่ครบถ้วน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการสรรหาอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งตามองค์ประกอบของอนุกรรมการได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งเพื่อให้การบริหารงานบุคคลภายในเขตพื้นที่การศึกษาสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงได้จัดการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น โดยได้เรียนเชิญผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ปรึกษาสำนักงาน ก.ค.ศ. ผู้บริหารสำนักงาน ก.ค.ศ. เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม 70 คน มาร่วมกันระดมความคิดเห็น สะท้อนมุมมองในเชิงการปฏิบัติงานจริงเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลต่อไป