Accessibility Tools
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นวันครู ในวันดังกล่าวเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจของครูทั่วประเทศ มีการจัดงานวันครูที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับทุกๆ ปี ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค หนังสือพิมพ์ต่างๆ นำเสนอข่าวการกราบคารวะครูของนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ซึ่งเป็นประธานพิธีในวันนั้น เป็นภาพที่ประทับใจคนทั้งประเทศก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกล่าวปราศรัยของนายกรัฐมนตรีกับครูตอนหนึ่งที่ว่า "คำว่าครูมีความหมายลึกซึ้ง ไม่ใช่เป็นเพียงผู้สอน ยังต้องมีหน้าที่ในการอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์มีคุณธรรม จริยธรรม สมกับเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ครูเป็นเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ถือเป็นผู้มีจิตอาสาอย่างแท้จริง แต่วันนี้น่าตกใจที่อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีหนี้สินมากที่สุด...รัฐบาลให้ความสำคัญกับครูและการศึกษาของเยาวชนที่ต้องควบคู่กันไป และนอกจากครูจะได้รับการยกย่องแล้ว ต้องมีขวัญกำลังใจและสวัสดิการ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและไม่เคยลืม..."
จากคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับครูเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานก.ค.ศ.ดำเนินการโครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยจัดสรรเงินงบประมาณของทางราชการเพื่อให้ข้าราชการครูกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าไปชำระหนี้ที่มีอยู่ ภายใต้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กอปรกับในปี พ.ศ.2554 เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือให้กองทุนหมุนเวียนทบทวนบทบาท หน้าที่กรอบภารกิจและวัตถุประสงค์ของทุนหมุนเวียน เพื่อหามาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้รับบริการที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู จึงหามาตรการในการให้ความช่วยเหลือข้าราชการครูที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวโดยได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพักชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้และให้กู้ยืม กรณีผู้ประสบอุทกภัย พ.ศ.2554 โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.ข้าราชการครูผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตามโครงการนี้ ต้องเป็นผู้กู้ยืมเงินตามโครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ทำให้ทรัพย์สินหรือที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าราชการครู ผู้กู้ยืม หรือของบิดา มารดา และใช้อาศัยอยู่จริงได้รับความเสียหายเป็นที่ประจักษ์ มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่ผิดนัดชำระหนี้และไม่มีหนี้ค้างชำระตั้งแต่ 3 งวดขึ้นไป
2.การให้ความช่วยเหลือ จะพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญากู้ยืมเงินเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 ขยายเวลาการชำระหนี้เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยทั้งการพักชำระหนี้และขยายเวลาการชำระหนี้ ต้องไม่เกินกำหนดอายุราชการของผู้กู้ยืมยังรับราชการอยู่ สำหรับการกู้ยืมใหม่ ให้กู้ยืมคนละไม่เกิน 300,000 บาทอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ผ่อนชำระภายในกำหนด 8 ปี (96 งวด)
3.ให้ผู้มีความประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือตามโครงการนี้ ดำเนินการยื่นคำขอและดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม 2555 โดยสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว พร้อมแบบคำขอได้ทาง www.moe.go.th/webtcs
ในโอกาสนี้จึงแจ้งเตือนมายังเพื่อนครูที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการนี้ว่า เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันที่จะครบกำหนดแล้ว ขอให้รีบดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลาดังกล่าวนะคะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 30 ม.ค. 2555
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก ดุสิต กทม. 10300
Copyright © 2019 www.otepc.go.th