Accessibility Tools
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2562 ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
1. อนุมัติให้ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งบรรณารักษ์ ระดับปฏิบัติการ สังกัดสำนักงาน กศน. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.5/ว 27 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555
2. เห็นชอบให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มีวิทยฐานะชำนาญการและมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 10 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 มาใช้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีวิทยฐานะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอชำนาญการพิเศษและรองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดชำนาญการพิเศษโดยอนุโลม
3. เห็นชอบหลักการในการกำหนด (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด และรองศึกษาธิการจังหวัดโดยให้ส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.หารือฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ชัดเจนและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอ ก.ค.ศ. เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
4. เห็นชอบให้แก้ไข แบบบันทึกการประเมิน แนบท้ายแบบประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกสายงาน ตามที่กำหนดไว้เดิม และเห็นชอบคำชี้แจงและแบบประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่กำหนดใหม่ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 1 (วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 มีนาคม 2562) เป็นต้นไป
5. เห็นชอบ การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยให้ใช้กับทุกส่วนราชการ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการมอบอำนาจให้ส่วนราชการดำเนินการกำหนดองค์ประกอบในการคัดเลือก ตัวชี้วัด และคะแนน รวมทั้ง วิธีการคัดเลือกได้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของแต่ละส่วนราชการ และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ซึ่งจะมีการดำเนินการในรูปคณะกรรมการ และพิจารณาผลงานเชิงประจักษ์ เป็นไปตามหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้ส่วนราชการเสนอให้ ก.ค.ศ. พิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินการคัดเลือก ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งและผ่านการพัฒนาก่อนการบรรจุและแต่งตั้ง รวมทั้งต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา เป็นระยะเวลา 6 เดือน
6.เห็นชอบหลักการในการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ(ตามมาตรา 50) ซึ่งต้องเป็นกรณีมีเหตุพิเศษ ที่ไม่สามารถดำเนินการสอบแข่งขันได้ หรือการสอบแข่งขันอาจทำให้ไม่ได้บุคคลต้องตามประสงค์ของทางราชการ โดยให้ส่วนราชการเสนอเหตุผลความจำเป็นในการคัดเลือกเป็นกรณีพิเศษให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
7. เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) มาตรฐานตำแหน่งคณาจารย์ในสถาบันการอาชีวศึกษา โดยให้สถาบัน การอาชีวศึกษานำมาตรฐานภาระงานทางวิชาการของผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ตามประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ฉบับลงวันที่ 11 มิถุนายน 2558 มาใช้บังคับกับคณาจารย์ในสถาบันการอาชีวศึกษา โดยอนุโลม และให้สภาสถาบันตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 เป็นผู้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของสภาสถาบันอุดมศึกษา ตามประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เรื่อง มาตรฐานภาระงานทางวิชาการของผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ฉบับลงวันที่ 11 มิถุนายน 2558
นายศรายุทธ มาทัพ หัวหน้ากลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่
นางสาวจารุนันท์ แก้วทองนาค ผู้ช่วยเลขานุการ ก.ค.ศ.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนิน ดุสิต กทม. 10300
Copyright © 2019 www.otepc.go.th